งานตรวจสอบและทดสอบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
การตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
บริการตรวจสอบโดยทีมงานวิศวกรมืออาชีพ ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบที่ถูกต้องแม่นยำ
เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
ขอบเขตในการการตรวจสอบ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
| 1 | อุปกรณ์ควบคุม | |
| (ก) การทำงาน | การทำงานทุกอย่างของระบบ รวมทั้งของสัญญาณแจ้งเหตุ | |
| และสัญญาณขัดข้อง ต้องทดสอบตามคำแนะนำของผู้ผลิต | ||
| (ข) บริภัณฑ์เชื่อมต่อสัญญาณ | ทดสอบการทำงานของวงจรเชื่อมต่อสัญญาณกับระบบอื่น ๆ | |
| ว่าทำงานได้ดีถูกต้อง | ||
| (ค) หลอดไฟ หรือหลอด LED | หลอดไฟ หรือหลอด LED ต้องทดสอบว่าใช้งานได้ | |
| (ง) แหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก | แหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก ต้องทดสอบการทำงาน | |
| ของอุปกรณ์แจ้งเหตุเช่น กระดิ่ง ทำงานทุกตัว | ||
| อย่างต่อเนื่องได้ โดยปราศจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง | ||
| 2 | เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และ/หรือ UPS | กรณีที่ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ออกแบบให้รับกำลังไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิด |
| ไฟฟ้าและ/หรือ UPS ต้องทดสอบการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า | ||
| และ/หรือ UPS ด้วยว่า สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าได้ปกติ | ||
| 3 | แหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง | ตรวจสอบโดยการปลดแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก เพื่อตรวจสอบไฟจากแบตเตอรี่ |
| ให้มีความสามารถจ่ายไฟให้ระบบในสภาวะแจ้งเหตุ ได้อย่างน้อย 15 นาที | ||
| เมื่อตรวจสอบแล้ว ให้ต่อแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักกลับคืนสู่สภาวะปกติ | ||
| 4 | แบตเตอรี่-การทดสอบทั่วไป | |
| (ก) การตรวจด้วยสายตา | ตรวจหารอยรั่ว, ระดับน้ำกลั่น และความแน่นของขั้วแบตเตอรี่ พร้อมทั้ง | |
| ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ด้วย | ||
| (ข) การเปลี่ยนแบตเตอรี่ | เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามระยะเวลาที่กำหนดโดยผู้ผลิต หรือเปลี่ยน เมื่อไม่ | |
| สามารถประจุไฟฟ้าให้แบตเตอรี่มีแรงดันตามข้อกำหนดของผู้ผลิตได้ | ||
| (ค) การทดสอบเครื่องประจุแบตเตอรี่ | ตรวจสอบการทำงานและพิกัดของเครื่องประจุแบตเตอรี่ | |
| (ง) การทดสอบการคายประจุของ | ปลดเครื่องประจุแบตเตอรี่แล้วตรวจสภาพการคายประจุของแบตเตอรี่ตามข้อ | |
| แบตเตอรี่ | กำหนดของผู้ผลิต วัดแรงดันที่ขั้วแบตเตอรี่ ต้องไม่ต่ำกว่าที่ระบุไว้ในข้อกำหนด | |
| ของผู้ผลิต (การคายประจุอาจต่อตัวต้านทานคร่อมขั้วแบตเตอรี่ เพื่อให้เกิด | ||
| กระแสไฟฟ้าเท่ากับการทำงานสูงสุดของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้) | ||
| (จ) การทดสอบแรงดันเมื่อระบบ | ปลดเครื่องประจุแบตเตอรี่ และตรวจสอบแรงดันระหว่างขั้วแบตเตอรี่ เมื่อ | |
| แจ้งเหตุเพลิงไหม้ทำงานเต็มที่ | ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทำงานเต็มที่แรงดันต้องไม่ต่ำกว่าข้อกำหนดของผู้ผลิต | |
| (ขณะมีโหลด) | ||
| (ฉ) แรงดันของแบตเตอรี่เมื่อไม่มีโหลด | ปลดเครื่องประจุแบตเตอรี่ แรงดันต้องไม่ต่ำกว่าข้อกำหนดของผู้ผลิต | |
| |
|
|
| 5 | การตรวจสอบวงจรป้องกันฟ้าผ่า | อุปกรณ์วงจรป้องกันฟ้าผ่า ต้องมีการตรวจสอบตามข้อกำหนดของผู้ผลิต |
| หรือปีละ2 ครั้ง และต้องตวจสอบเพิ่มเติมหลังเกิดฟ้าผ่า | ||
| 6 | สัญญาณขัดข้องต่าง ๆ บนแผงควบคุม | |
| (ก) สัญญาณเสียง และแสง | ตรวจสอบการทำงานของสัญญาณขัดข้อง และสัญญาณปรับตั้งใหม่ (Reset) | |
| (Audibie & Visual) | กรณีสวิตช์เงียบเสียงเป็นแบบกดค้าง ต้องคืนสภาพปกติเมื่อแก้ไขเหตุขัดข้อง | |
| ของระบบแล้ว | ||
| (ข) วงจรมอนิเตอร์การรั่วลงดิน | กรณีแผงควบคุมมีสวิตช์ตัดสัญญาณอุปกรณ์ตรวจจับ ต้องตรวจสวิตช์ตัด | |
| (Disconnect Switch) | สัญญาณว่าอยู่ในสถานะที่ถูกต้องหรือไม่ หรือให้ตรวจสอบสัญญาณขัดข้อง | |
| อันเนื่องจากสวิตช์ตัดสัญญาณอยู่ผิดสถานะ | ||
| (ค) วงจรมอนิเตอร์การรั่วลงดิน | เมื่อระบบมีวงจรมอนิเตอร์รั่วลงดิน ตรวจสอบการทำงานของวงจรโดยต้อง | |
| (Ground Fault Monitoring Circuit) | แสดงสัญญาณขัดข้องเมื่อสายไฟฟ้าใด ๆ ในระบบรั่วลงดิน | |
| (ง) การส่งสัญญาณต่าง ๆ ออกนอกพื้นที่ | ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์เริ่มสัญญาณ แล้วตรวจสอบการรับสัญญาณ | |
| (Transmission of Signal Off | ต่าง ๆที่ส่งออกนอกพื้นที่ | |
| Premise Location) | ตรวจสอบการรับสัญญาณเหตุขัดข้องที่ส่งออกนอกพื้นที่ | |
| ตรวจสอบการรับสัญญาณ ตรวจคุมที่ส่งออกนอกพื้นที่ | ||
| |
|
|
| 7 | แผงแสดงผลระยะไกล | ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ |
| และตรวจสอบการรายงานผลที่แสดงที่แผงแสดงผลเพลิงไหม้รวมทั้ง | ||
| สัญญาณขัดข้องต่าง ๆถ้ามี | ||
| 8 | ตัวนำ / โลหะ | |
| (ก) การลัดวงจรดิน | ตัวนำไฟฟ้าทั้งหมดในระบบต้องตรวจสอบว่าไม่รั่วลงดิน วิธีการทดสอบให้ | |
| เป็นไปตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ยกเว้นไม่ต้องตรวจสอบสายดิน | ||
| (ข) การลัดวงจร | ตัวนำไฟฟ้าทั้งหมดในระบบต้องตรวจสอบว่าไม่มีการลัดวงจร ระหว่าง | |
| สาย-สาย และสาย-ดิน วิธีการทดสอบให้เป็นไปตามที่ผู้ผลิตแนะนำ | ||
| (ค) ความต้านทานวงจร | วัดความต้านทานวงจร ของอุปกรณ์วงจรเริ่มสัญญาณ และวงจรแจ้งเหตุ | |
| (Loop Resistance) | ต้องมีค่าไม่เกินที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ | |
| 9 | ตัวนำ / อโลหะ | |
| (ก) ความพร้อมของวงจร | ตรวจสอบอุปกรณ์เริ่มสัญญาณ อุปกรณ์แจ้งเหตุ และวงจรแจ้งเหตุ ว่ามี | |
| การเชื่อมต่อสายอย่างถูกต้อง | ||
| (ข) สายใยแก้ว | สายใยแก้วต้องทดสอบตามผู้ผลิตแนะนำ หรือใช้มิเตอร์วัดกำลังแสง วัดความ | |
| (Fiber Optic) | สูญเสียในสาย ค่าที่วัดได้ของใยแก้วทุกเส้นต้องบันทึกไว้ที่แผงควบคุม ในการ | |
| วัดครั้งต่อไป ถ้ากำลังสูญเสียมากกว่า ร้อยละ 2 จากค่าที่เคยบันทึกไว้ครั้ง | ||
| แรกต้องทำการแก้ไขให้กลับคืนสู้สภาพโดยช่างผู้ชำนาญ | ||
| (ค) การตรวจคุม | เมื่อทดลองเปิดวงจรตรวจคุม ต้องมีการแสดงสัญญาณขัดข้องเกิดขึ้นที่แผง | |
| การทดลองเปิดวงจรแต่ละครั้งต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของอุปกรณ์เริ่ม | ||
| สัญญาณอุปกรณ์แจ้งเหตุ หรืออุปกรณ์สายสัญญาณ | ||
| 10 | อุปกรณ์เริ่มสัญญาณ | |
| (ก) อุปกรณ์เริ่มสัญญาณทางกล | ถอดตัวเชื่อมหลอมละลายออก และทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง | |
| และไฟฟ้า | หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ทุกชิ้นตามความจำเป็น | |
| 1.ตัวเชื่อมแบบไม่คืนสภาพ | ถอดตัวเชื่อมหลอมละลายออก และทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง | |
| 2.ตัวเชื่อมแบบคืนสภาพ | หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ทุกชิ้นตามความจำเป็น | |
| หมายเหตุ โดยทั่วไปอุปกรณ์ตรวจจับแบบตัวเชื่อมหลอมละลายใชสำหรับ | ||
| ปิดประตูทนไฟ ลิ้น (Damper) | ||
| (ข) สวิตช์สัญญาณแจ้งเหตุระดับเพลิง | ทดสอบการทำงานของสวิตช์โดยทางไฟฟ้าหรือทางกลว่า สามารถส่ง | |
| สัญญาณไปที่แผงควบคุมได้ | ||
| (ค) อุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟจากก๊าซ | ทดสอบความถูกต้องในการทำงานของอุปกรณ์ตรวจจับเปลิวไฟจากก๊าซ | |
| ตามคำแนะนำของผู้ผลิต | ||
| (ง) อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน | ||
| 1.อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนแบบ | ทดสอบอุปกรณ์ตรวจจับความร้อนด้วยอุปกรณ์ให้ความร้อนตามคำแนะนำของ | |
| อุณหภูมิ คงที่ และ/หรือแบบ | ผู้ผลิต และอุปกรณ์ตรวจจับต้องทำงานภายใน 1 นาที การทดสอบต้องระวัง | |
| อัตราเพิ่มอุณหภูมิ ที่เป็นชนิดเส้น | การเกิดความเสียหายกับตัวตรวจจับความร้อนแบบไม่คืนสภาพ | |
| หรือชนิดจุดแบบคืนสภาพ | ||
| 2.อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนแบบ | ห้ามทดสอบโดยใช้ความร้อน ให้ทดสอบการทำงานโดยทางกลและไฟฟ้า | |
| อุณหภูมิคงที่ ที่เป็นชนิดเส้นแบบ | โดยวัดและบันทึกค่าความต้านทานวงจร และเปรียบเทียบกับค่าที่ยอมรับได้ | |
| ไม่คืนสภาพ | ||
| 3.อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนแบบ | ภายหลังการใช้งานนาน 15 ปี ให้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด หรือนำตัวอย่างไม่น้อย | |
| อุณหภูมิคงที่ชนิดจุดแบบไม่คืน | กว่าร้อยละ 2 ทดสอบในห้องปฏิบัติการ ถ้าตัวใดตัวหนึ่งไม่ผ่านการทดสอบนำ | |
| สภาพ | ตัวอย่างใหม่อีกร้อยละ 2 ตัว มาทำการทดสอบอีก และหากไม่ผ่านการทดสอบ | |
| ให้เปลี่ยนอุปกรณ์ตรวจจับความร้อนทั้งหมด อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนที่นำไป | ||
| ทำการทดสอบแล้วห้ามนำกลับมาใช้อีก | ||
| 4.อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนทั่วไป | ห้ามทดสอบโดยใช้ความร้อน ให้ใช้การทดสอบการทำงานโดยทางกลและไฟฟ้า | |
| แบบไม่คืนสภาพทั่วไป | ||
| (จ) อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ | ทดสอบการทำงานตามคำแนะนำของผู้ผลิต | |
| (ฉ) อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิง | อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิง ทดสอบตามคำแนะนำของผู้ผลิต | |
| (ช) อุปกรณ์ตรวจจับควัน | อุปกรณ์ตรวจจับควันต้องทดสอบ ณ จุดติดตั้ง โดยใช้ควัน หรือก๊าซ | |
| เสมือนควันที่ผู้ผลิตยอมรับ | ||
| 1.ทุกชนิด | ให้ตรวจสอบค่าความไวของอุปกรณ์ตรวจจับควัน ให้อยู่ในช่วงยอมรับได้ | |
| ตามคำแนะนำของผู้ผลิต | ||
| 2.ชนิดตรวจจับควันในท่อลม | อุปกรณ์ครวจจับควันในท่อลม ให้ทดสอบการไหลของอากาศ | |
| (Duct type) | ตามคำแนะนำของผู้ผลิต | |
| 3.ชนิดลำแสง | การตรวจสอบให้ใช้ก๊าซเสมือนควัน หรือแผ่นกรองแสงไปขวางลำแสง | |
| 4.อุปกรณ์ตรวจจับควัน และความ | ตรวจสอบแยกแต่ละส่วน ตามวิธีการที่กล่าวแล้ว | |
| ร้อนในตัวเดียวกัน | ||
| 5.อุปกรณ์ตรวจจับควันชนิด แบบมี | อุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดนี้ จะมีสวิตซ์ตัดต่อวงจรการควบคุม เปิด/ปิด อุปกรณ์ | |
| สวิตซ์ควบคุมอุปกรณ์ | อื่น เช่น พัดลมดูดควัน ให้ตรวจสอบว่าการทำงานของอุปกรณ์เริ่มสัญญาณอื่น ๆ | |
| ในวงจรเดียวกันไม่ทำให้ความสามารถในการควบคุมของอุปกรณ์ตรวจจับควัน | ||
| ตัวนี้เปลี่ยนไป | ||
| (ญ) อุปกรณ์เริ่มสัญญาณและการตรวจคุม | ||
| 1.สวิตซ์ควบคุมประตูน้ำดับเพลิง | ให้ตรวจสอบว่า สวิตซ์ต้องเริ่มสัญญาณถ้าหมุนประตูน้ำภายใน 2 รอบ หรือ | |
| ประตูน้ำเลื่อนไป 1ใน5 ของระยะทางปกติหรือตามข้อกำหนดจากโรงงานผู้ผลิต | ||
| 2.สวิตซ์วัดแรงดัน | ตรวจสอบว่า สวิตซ์ต้องเริ่มสัญญาณผิดปกติ ถ้าแรงดันน้ำเพิ่มหรือลดลง | |
| 10 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จากแรงดันปกติ | ||
| 3.สวิตซ์ระดับน้ำ | ตรวจสอบว่า สวิตซ์ต้องเริ่มสัญญาณผิดปกติ ถ้าแรงดันน้ำเปลี่ยนไปจากระดับที่ | |
| ตั้งไว้ 75 มม. สำหรับถังความดัน หรือ 300 มม. สำหรับถังปลอดความดัน | ||
| (ฎ) สวิตซ์ตรวจการไหล | ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์เมื่อมีการไหลของน้ำ | |
| |
|
|
| 11 | อุปกรณ์แจ้งเหตุ | |
| (ก) เสียง | วัดค่าระดับความดังเสียงในบริเวณป้องกันด้วยเครื่องวัด ซึ่งต้องเป็นไปตามที่ | |
| กำหนดในมาตรฐาน | ||
| (ข) ลำโพง | วัดค่าระดับความดังเสียงในบริเวณป้องกันด้วยเครื่องวัด ซึ่งต้องเป็นไปตามที่ | |
| กำหนดในมาตรฐาน | ||
| (ค) แสง | ให้ทดสอบตามคำแนะนำของผู้ผลิต และตรวจสอบตำแหน่งติดตั้ง ให้ตรงกัน | |
| แบบที่ได้รับอนุมัติ | ||
| 12 | บริภัณฑ์สื่อสารฉุกเฉิน | |
| (ก) เครื่องขยายเสียง / เครื่องกำเนิดเสียง | ตรวจสอบการทำงานของชุดสำรองและอุปกรณ์ปลดสับให้อยู่ในตำแหน่งที่ | |
| (Amplifer / Tone Generator) | ถูกต้อง | |
| (ข) สัญญาณเรียกเข้า | ตรวจสอบการทำงานและรับสัญญาณทั้งแสงและเสียงที่เข้ามายังแผงควบคุม | |
| (ค) ระบบโทรศัพท์ | ตรวจสอบการทำงานและขั้นตอนการทำงานให้ถูกต้อง ตั้งแต่เครื่องโทรศัพท์ | |
| เต้ารับหูฟัง และสัญญาณการทำงาน | ||
| (ง) สมรรถนะของระบบ | ทดสอบการสื่อสารระหว่างกันอย่างน้อย 5 หูฟังในเวลาเดียวกัน ตรวจสอบ | |
| ความคมชัดของเสียง |
||
| 13 | บริภัณฑ์เชื่อมต่อสัญญาณ | ตรวจสอบการต่อของบริภัณฑ์เชื่อมโยง โดยทดสอบการทำงานจริงหรือโดย |
| การจำลองสัญญาณรับส่งระหว่างกัน |






